Make yourself PROUD ep.7

เพื่อนๆเคยสงสัยกันไหมคะ ว่าเจ้าของกิจการต่างๆ กว่าที่เขาและเธอจะมีวันนี้ได้ พวกเขาผ่านอะไรกันมาบ้าง บนเส้นทางธุรกิจที่เขาเลือกเดินนั้น มีอะไรรอเขาอยู่ข้างหน้า มันจะสวยงามเหมือนความฝันในวัยเด็กไหม วันนี้ ทีมงาน Make yourself PROUD ขอเชิญเพื่อนๆมาทำความรู้จักกับ คุณบาย ภีมวัชช์ บุญเกิด เจ้าของแบรนด์ Pimacoff by Pimavach

เรื่องราวของเขาก่อนจะมีวันนี้นั้น เขาผ่านอะไรมาบ้างเรามาติดตามไปพร้อมๆกันกับ

Make Yourself PROUD

EP.7 : Pimacoff by Pimavach

“ การเริมต้นใหม่ไม่ใช่ว่าจะผิดพลาดเหมือนครั้งแรก ๆ เสมอไป

การก้าวเดินและลุกขึ้นใหม่อาจจะเป็นการก้าวเดินที่นำไปสู่การประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของชีวิตคุณก็ได้”

- PROUD sugar -

ก่อนจะมาเป็นเจ้าของแบรนด์ Pimacoff ภีมวัชช์ บุญเกิด หรือคุณบาย เริ่มต้นจากการเป็นพนักงานขายคนเดียวของบริษัทข้ามชาติ จนวันหนึ่งเขาได้ออกมาเปิดบริษัทเป็นของตัวเองตามที่ตั้งใจไว้ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดในวันที่ธุรกิจกำลังไปได้ดี น้ำท่วมก็มาพรากความสำเร็จไปจากเขา วันนั้นชีวิตก็ได้ถูกเขียนขึ้นมาใหม่อีกครั้งบนผืนดิน...ของพ่อ

ในวันที่ท้อแท้ บ้าน คงเป็นสถานที่แรกที่เราอยากกลับไป หลังจากเก็บกระเป๋าเดินทางจากรุงเทพ มุ่งหน้าไปเชียงใหม่ ครอบครัวได้ช่วยเยียวยาความรู้สึกและได้ช่วยแนะนำกิจกรรมอื่นให้ทำ ให้สมองได้คิดเรื่องอื่นบ้างนอกจากความเสียใจจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา

ครั้งแรก

“นี่คงเป็นจุดเริ่มต้นที่เราได้มาทำงานในไร่กับพ่อ นอกจากกาแฟแล้ว พ่อยังปลูกส้ม อะโวคาโด และถั่วแมคคาเดเมีย และเป็นครั้งแรกที่เราได้ลองชิมกาแฟถ้วยหนึ่งที่ทำจากเมล็ดกาแฟที่พ่อปลูก มันเป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากความทรงจำในวัยเด็กมาก พ่อทำยังไงกาแฟของพ่อถึงได้มีรสชาติและกลิ่นที่ไม่เหมือนกับที่อื่นที่เราเคยสัมผัสมา จนเราได้ศึกษา และดูวิธีการอยู่นาน ตอนนั้นเรามั่นใจมากว่าเรามีของดีอยู่ในมือ” คุณบายกล่าว

ด้วยความมุ่งมั่นนี้ เขาได้นำเอาเมล็ดกาแฟกลับมาที่กรุงเทพด้วย แต่ตอนนั้นเขายังไม่มี Know How อะไรเกี่ยวกับการคั่วกาแฟเลยด้วยซ้ำ เขาเริ่มจากการปั่นจักยานไปตามถนนสุขุมวิทเพื่อนำตัวอย่างเมล็ดกาแฟไปให้ทางร้านทดลอง แน่นอนว่าไม่มีร้านไหนสนใจสินค้าของเขาเลย ทำอยู่แบบนี้ซ้ำๆจนคิดว่า ถ้าฝืนต่อไปแบบนี้คงไม่ดีแน่ เขาจึงใช้เงินเก็บก้อนสุดท้ายไปซื้อตั๋ว มุ่งหน้าไปญี่ปุ่นสะพายเป้ใบเดียวเดินทางทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าหมายว่าอยากเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการคั่วกาแฟของญี่ปุ่นเพื่อนำมาพัฒนา เมล็ดกาแฟคั่วของตัวเอง

หลังจากกลับมาจากญี่ปุ่น ก็ยังไม่สามารถขายกาแฟเข้าร้านต่างๆได้ คุณบายบอกกับทีมงานว่ามีของที่ค้างไว้ในบ้านเป็นกาแฟที่คั่วแล้วนับ 100 กิโลกรัม ความท้อเริ่มครอบงำ แต่มันก็ไม่ได้มืดไปซะทุกทาง มันจะต้องมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

ปรับมุมมอง

“ถ้าเราปรับเปลี่ยนวิธีการแล้วของมันยังขายไม่ได้ เราอาจจะจับตลาดผิดกลุ่มหรือเปล่า? เราเลยลองสมัครไปออกบูธกับ Bangkok farmer market ด้วยความคิดที่ว่าลูกค้าของเราอาจจะอยู่ตรงนี้ก็ได้ ก่อนวันออกบูธเราหัดชงกาแฟทั้งวันทำเยอะมาก เยอะจนจำไม่ได้ว่าหัดชงไปเยอะแค่ไหน วันแรกคือขายได้ประมาณ 15-20 แก้ว ซึ่งคู่แข่งเราตอนนั้นขายดีมาก มันทำให้เราฮึดสู้อีกครั้งเราก็เอาป้ายขึ้นมาชู “We Sell Coffee Here” จากนั้นก็เริ่มขยับจำนวนแก้วมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็เริ่มมีลูกค้าจากการออกบูธในตอนนั้น โดยการบอกปากต่อปาก และก็ตามมาเป็นลูกค้าเราจนวันนี้ “ คุณบายกล่าว

ความยั่งยืน

“ทุกอย่างที่ Pimacoff ผลิตขึ้นด้วยมือ เราไม่ได้ผลิตเป็นจำนวนมาก เรากับพ่อยังคงไปตลาดเกษตรกรต่อไป เพราะมันเปิดโอกาสให้เราได้นำกาแฟของพวกเราไปพบกับคนที่ดื่มกาแฟโดยตรง และเขาสามารถบอกพวกเราได้ทันทีว่าพวกเขา ชอบ หรือไม่ เพื่อให้เราได้รับรู้และนำคำติชมเหล่านั้นกลับมาปรับปรุงและพัฒนา Pimacoff ต่อไป

“เรามองว่าคุณภาพ ดีกว่าปริมาณ นั่นคือการวางความยั่งยืนให้แบรนด์ Pimacoff “

“ การกระโดดเข้าไปในธุรกิจครั้งแรกมันยาก ต่อให้คุณขายเก่งแค่ไหนคุณก็จะเจอกำแพงสูงมาขวางไว้

คุณจะเจอกับผู้คนหลากหลายความคิดที่มีเพื่อปฏิเสธคุณ คุณอาจจะรู้สึกท้อ

แต่มีสิ่งหนึ่งที่คุณห้ามทิ้ง คือ ความพยายาม และ การเรียนรู้ “

คุณบาย ภีมวัชช์ บุญเกิด

เจ้าของแบรนด์ Pimacoff by Pimavach

----------

หากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากลิ้มลองเมล็ดกาแฟที่กลิ่นและรสชาติเป็นเอกลักษณ์ สามารถติดต่อสั่งซื้อได้โดยตรงกับคุณบายได้เลยค่ะที่